★สุดยอดวิธียืดอายุ 10 อวัยวะ
เราเคยชินกับความรู้ที่ว่า
อวัยวะจะเสื่อมไปตามเวลา วิธีการยืดอายุอวัยวะมีร้อยแปดพันประการ
แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ดร.โรแนน แฟคโทรา แห่งสถาบันการแพทย์ Cleveland
Clinic ประเทศสหรัฐอเมริกา เด็ดยอดวิธียืดอายุอวัยวะต่างๆ
ไว้ในนิตยสาร Times ดังนี้
1.
สมอง
Fact:
หลังอายุ
70 ปี จะเริ่มพบความผิดปกติที่เกิดจากความเสื่อมของสมอง
ซึ่งมักเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในคราวเดียว
How-to:
(1)
นิวโรบิกส์ เอ็กเซอร์ไซส์ (Neurobics Exercise) หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้มือทั้ง 2 ข้าง
ทำงานประสานกัน เช่น ทำสวน เย็บผ้า ทำกับข้าว
ช่วยให้สมองทั้งซีกซ้ายและขวาได้รับการกระตุ้นและทำงานไปพร้อมกัน
(2)
กิน ปลาทะเล ถั่วเปลือกแข็ง และธัญพืช
แหล่งสุดยอดสารอาหารบำรุงเป็นประจำ
(3)
ฝึกเจริญสติก่อนนอน ใช้วิธีกำหนดรู้ลมหายใจเข้าและออก จนกว่าจะหลับ
ช่วยลดความเครียดและทำให้สมองปลอดโปร่งในวันรุ่งขึ้น
2.
ดวงตา
Fact:
หลังอายุ
40 ปี ต่อจากนั้น ทุกๆ ปี ดวงตา จอประสาตา เลนส์ตาจะเสื่อมลง
ในอัตราที่ไม่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับรูปแบบกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
How-to:
(1)
สวมแว่นกันแดด ก่อนทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกครั้ง (2) ผู้ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ ควรพักสายทุกๆ 45 นาที
อย่างน้อย 5-10 นาที
(3)งดใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตก่อนนอน
3.
หู
Fact:
หลังอายุ
60 ปี การได้ยินจะค่อยๆ ลดลงทุกปี และทุกๆ 1 ใน 3 คนมีปัญหาเรื่องการได้ยินเมื่อเข้าสู่วัยนี้
How-to:
(1)
หลีกเลี่ยงการทำงานหรืออาศัยอยู่ในที่ๆ มีเสียงดัง
หากจำเป็นต้องใส่เครื่องป้องกัน
(2)
งดสั่งน้ำมูกแรงๆ หรือ กลั้นจาม เพราะอาจทำให้เยื่อแก้วหูมีปัญหา
(3)
งดแคะหูเอง เพราะขี้หูเป็นขี้ผึ้งรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ
การแคะหูทำให้เกิดการอักเสบและเยื่อแก้วหูฉีกขาดได้
4.
ปอด
Fact:
หลังอายุ
30 ปี ต่อจากนั้น ทุกๆ ปี ประสิทธิภาพการทำงานของปอดจะลดลงราวร้อยละ 1
How-to:
(1)
ว่ายน้ำ หรือ วิ่ง อย่างน้อยวันละ 45 นาที –
1 ชั่วโมง
(2)
ใช้สมุนไพรไทยปรับธาตุ จิบยาตรีผลา ก่อนอาหารเช้า-เย็น ครั้งละ 1 แก้ว มีสรรพคุณช่วยปรับธาตุ บำรุงปอด แก้ไอ ลดเสมหะได้
(3)
หลีกเลี่ยง ควันธูป ควันจากการประกอบอาหาร ฝุ่นขนาดเล็ก
และสารเคมีที่มีไอระเหยต่างๆ
5.
หัวใจ
Fact:
หลังอายุ
65 ปี จะเริ่มมีโอกาสเป็นโรคหัวใจ
เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจที่ลดลงสวนทางกับอัตราการหนาตัวของผนังหัวใจที่เพิ่มขึ้นเมื่ออายุ
20-30 ปี เฉลี่ยทุกๆ 10 ปี
อัตราการสูบฉีดโลหิตสูงสุดจะลดลงราวร้อยละ 10
How-to:
(1)
งดอาหารหวาน มัน เค็ม
รักษาความดันโลหิตและน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (2) ว่ายน้ำ
เดิน วิ่ง โยคะ ร่วมถึงการยกน้ำหนัก ช่วยให้หัวใจทำงานต่อเนื่อง
กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง
(3)
ปลูกต้นไม้ ไปทำกิจกรรมในสวนสาธารณะ หรือมีสัตว์เลี้ยง
ผู้ที่มีงานอดิเรกเหล่านี้ มีความเสี่ยงโรคหัวใจน้อยกว่าคนทั่วไป
6.
ไต
Fact:
หลังอายุ
50 ปี ไตจะเริ่มเสื่อมลงทีละน้อยๆ จนคุณแทบไม่รู้สึก
How-to:
(1)
ดื่มน้ำให้เพียงพอ สถาบันการแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (Institute
of Medicine : IOM) ระบุว่า ผู้ชายอายุ 19
ปีขึ้นไป ต้องดื่มน้ำถึง 13 แก้วต่อวัน
ขณะที่ผู้หญิงวัยเดียวกันต้องการน้ำวันละ 9 แก้ว
(2)
งดปรุงแต่งรสอาหารโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาล เกลือ
หรือซอสต่างๆ
(3)
ควบคุมน้ำหนักตัว และความดันโลหิตไม่ให้เกินเกณฑ์มาตรฐาน
7.
สำไส้
Fact:
หลังอายุ
60 ปี ปุ่มเล็กๆ ที่ทำหน้าที่ดูดซึมสารอาหารในลำไส้เล็กจะบางลง
ร่างกายจึงดูดซึมสารอาหารได้น้อยลงตามไปด้วย
How-to:
(1)
ย่อยง่าย กินปลา ถั่ว เห็ด รวมถึงผักผลไม้ให้มากขึ้น
หลีกเลี่ยงอาหารทอด (2) กินโยเกิร์ต 1
ถ้วยทุกวัน เสริมโปรไบโอติก เพิ่มปริมาณแบคทีเรียดีในลำไส้
(3)
ฝึกโยคะ 4 ท่า ช่วยระบบย่อยทุกเช้าหลังตื่นนอน
ดังนี้ ท่าแมว ท่าสุนัข ท่าสามเหลี่ยม ท่าสะพาน และปิดท้ายด้วยท่าศพ ครั้งละ 3-5 ลมหายใจ แต่ละท่าทำ 5 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต
8.
ผิวหนัง
Fact:
หลังอายุ
18 ปี ต่อจากนั้น ทุกๆ ปี คอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังจะลดลงประมาณร้อยละ 1
How-to:
(1)
ทาครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของไทเทเนียมหรือสังกะสีเป็นประจำ
(2)
กินถั่วเปลือกแข็ง ผลไม้ตระกูลส้มและเบอร์รี่ เป็นประจำ
(3)
มาร์คหน้าด้วยโยเกิร์ตผสมข้าวโอ๊ต หรือ ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้
เพื่อฟื้นฟูผิวหลังออกแดดเสมอ
9.
กระดูก
Fact:
หลังอายุ
35 ปี ต่อจากนั้นทุกๆ ปีความหนาแน่นของมวลกระดูกจะลดลงราวร้อยละ 1 และจะมีอัตราลดลงเร็วขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (ในเพศหญิง)
How-to:
(1)
ยกน้ำหนัก หรือ กระโดดขึ้น-ลง 20 ครั้ง วันละ 2 เซ็ต
(2)
เพิ่มเมนูไทยๆ เปี่ยมแคลเซียม เช่น น้ำพริกกะปิปลาทูทอดกับผักสด
อย่างน้อย 3-4 มื้อต่อสัปดาห์
(3)
ระวังการใช้ยาสเตียรอยด์และยาลูกกลอนที่มีผลทำให้กระดูกพรุน
10.
กล้ามเนื้อ
Fact:
หลังอายุ
40 ปี ต่อจากนั้นทุกๆ ปี มวลกล้ามเนื้อจะลดลงและเปลี่ยนเป็นไขมัน
อัตรานั้นไม่สม่ำเสมอขึ้นอยู่กับรูปแบบกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
How-to:
(1)
วิดพื้น สวอท และยกน้ำหนักแต่ละท่าทำ 15 -20
ครั้ง นับเป็น 1เซ็ต ทำทุกวันอย่างน้อยครั้งละ 2 เซ็ต
สุดท้าย
การกินอาหารที่มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง เช่น ผักหลากสี ผลไม้รสเปรี้ยว รสฝาดขม
ช่วย
ชะลอกระบวนการเสื่อมของเซลล์ตามปกติได้
อย่าลืมเสริมด้วย การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทำสมาธิ
และหาโอกาสออกไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อลดความเครียด
(ตัวการเร่งให้เกิดกระบวนการเสื่อมของเซลล์) เท่านี้ก็ช่วยยืดอายุให้อวัยวะต่างๆ
ได้เช่นกัน
ที่มา:
ขอขอบคุณ
รศ.
ดร. ภญ. อรพรรณ มาตังคสมบัติ
อดีต
คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น