วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

คุณประโยชน์ 10 ประการของไข่ไก่



ไข่ไก่ : กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐตัดสารโคเลสเตอรอลออกจากบัญชีสารที่ประชากรสหรัฐต้องระมัดระวังแล้วโดยกล่าวว่าผลการวิจัยไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างสารโคเลสเตอรอลในอาหารที่เราบริโภคกับโคเลสเตอรอลในเลือดซึ่งร่างกายเราสร้างขึ้นมาเอง สรุปกินไข่ได้มากกว่า1ฟองต่อวัน สำหรับวัยไม่เกิน50 กินได้วันละ6ฟอง คนอายุ80 กินวันละ๒ฟองป้องกันอัลไซเมอร์       http://www.forbes.com/sites/fayeflam/2015/02/12/why-eggs-and-other-cholesterol-laden-foods-pose-little-or-no-health-risk/
 คุณประโยชน์ 10 ประการของไข่ไก่

1.ไข่เป็นอาหารที่ดีสำหรับดวงตา ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า การรับประทานไข่วันละฟองอาจจะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมจากสารคาโรทีนอยด์ที่อยู่ในไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่พบบริเวณตา โดยฉาบอยู่บนผิวของเรตินา เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารทั้งสองอย่างนี้โดยตรงจากไข่มากกว่าอาหารชนิดอื่น

2.ไข่ทำให้เป็นต้อกระจกน้อยลง จากคนที่กินไข่ทุกวัน มีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อกระจกน้อยลง อันเนื่องมาจากลูทีนและซีแซนทีนในไข่ดังได้กล่าวมาแล้ว

3.ไข่อุดมไปด้วยโปรตีน โดย 1 ฟอง จะมีโปรตีนคุณภาพดี 6 กรัม และกรดอะมิโนสำคัญอีก 9 ชนิด

4.ผลจากการทำวิจัยโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ด พบว่า การบริโภคไข่เป็นประจำยังช่วยป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน เส้นเลือดอุดตันในสมอง และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

5.ไข่เป็นแหล่งโคลีนที่ดีในกลุ่มของวิตามินบี ช่วยในการควบคุมการทำงานของสมอง ระบบประสาท และระบบไหลเวียนของเลือด โดยไข่ 1 ฟอง จะมีโคลีนมากถึง 300 ไมโครกรัม

6.ไขมันในไข่มีคุณภาพดี ไข่ 1 ฟอง มีไขมันอยู่ 5 กรัม และมีเพียง 1.5 กรัมเท่านั้นที่เป็นไขมันชนิดอิ่มตัว

7.แม้ว่าจะขัดแย้งกับความเชื่อเดิมๆ แต่งานวิจัยชิ้นใหม่กลับพบว่า การบริโภคไข่วันละ 2 ฟองเป็นประจำไม่มีผลกระทบต่อระดับไขมันในร่างกาย มิหนำซ้ำอาจจะช่วยทำให้ไขมันดีขึ้น

8.กินไข่ได้วิตามินดี เพราะไข่เป็นอาหารเพียงชนิดเดียวที่เป็นแหล่งวิตามินดีตามธรรมชาติ

9.ไข่อาจจะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานไข่ 6 ฟองต่อสัปดาห์ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมลงร้อยละ 44

10.ไข่ทำให้เส้นผมและเล็บมีสุขภาพดี เพราะว่าไข่มีซัลเฟอร์สูง รวมถึงยัง วิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิด หลายคนจึงพบว่าผมยาวเร็วขึ้นหลังจากที่เพิ่มไข่เข้าไปในอาหารที่รับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เคยขาดอาหารที่มีซัลเฟอร์หรือวิตามินบี 12 มาก่อน

แนะนำผู้สูงอายุ ควรปฏิบัติ 15 กรณี



แนะนำผู้สูงอายุ ค่ะ    รวมทั้งผู้ที่ใส่ใจห่วงใยสุขภาพตนเองและผู้อื่น
เอาไว้แนะนำผู้ใหญ่ที่บ้านนะ หมอเกษม วัฒนชัย
ให้ข้อแนะนำผู้สูงอายุ
ควรปฏิบัติ 15 กรณี

1. ให้เดินโดยมีไม้เท้า หรือเกาะราวเมื่อถึงคราจำเป็น อย่ากลัวเสียหน้า
2. ระวังเมื่อเดินพื้นต่างระดับ และอย่าเดินถอยหลัง
3. เวลาลงจากรถ ควรหยุดยืนตั้งตัวสักครู่ ก่อนออกเดิน
4. ขึ้นลงบันไดให้เกาะราวจับ
5. นุ่งถอดกางเกงหรือใส่เสื้อผ้าควรมีที่เกาะหรือพิงได้ และนั่งใส่จะดีกว่า
6. ไม่ควรรับเป็นประธาน หรือเจ้าภาพเผางานศพ เพราะท่านจะต้องขึ้นเมรุคนเดียวโดยไม่มีราวจับ เพราะถึงแม้มีราวจับแต่มันจะประดับด้วยดอกไม้ต้นไม้ นอกจากมีคนคอยพยุง
7.ยืนอาบน้ำควรมีราวจับ หรือมีแผ่นกันลื่นที่พื้น เพราะจะลื่นล้มง่าย
8.ยืนอาบน้ำในอ่าง ควรมีที่จับและแผ่นกันลื่น และเวลาออกจากอ่างต้องระวังเท้าสะดุดขอบอ่าง
9. ไม่ควรใช้บันได ชนิดพาดพิง หรือกางออก ทำงาน บนที่สูง เพราะอาจพลาดตกลงมาได้
10.ไม่ควรใช้ส้วมนั่งยองเพราะอาจหน้ามืดล้มได้
11.ไม่ลุกพรวดพราด เวลาถ่ายทุกข์เสร็จ หรือตื่นนอนใหม่ๆ ให้ค่อยๆลุกขึ้นยืน ให้ระบบไหลเวียนเลือดปรับตัว
12. เข้าห้องน้ำ ไม่ควรใส่กลอนประตู มีเหตุฉุกเฉิน ลูกหลานจะเข้าช่วยได้ทัน
13.ไม่ควรขับรถ ถ้าจำเป็นให้ขับช้าๆ เพราะประสาทคนสูงอายุจะตามรถไม่ทัน
14.เวลาล้ม อย่าเอามือยัน ให้ยอมเจ็บตัวดีกว่าแขนหัก
15. อย่าคิดทะนงว่าตนยังหนุ่มแข็งแรงคิดแบบนี้เกิดอุบัติเหตุมานักต่อนักแล้ว

โดย นพ.เกษม วัฒนชัย

คนจีน มี 5 คำ สอนตัวเรากับลูกหลานว่า ไม่ควรพูด



1."ยาก"  พอพูดคำว่ายาก จะเป็นการบล็อคความสามารถทันที
2."ทำไม่ได้"  จะเป็นการขับไล่ตัวจากสิ่งที่ทำ หรือปิดกั้นการเรียนรู้
3."ท้อ"  เพราะเพียงคำนี้ผุดขึ้น พลังทั้งมวลทั้งร่างกายและจิตใจจะถดถอยสูญสิ้น
4."ขี้เกียจ"  ไม่ควรแม้แต่พูดเล่น เพราะจะทำให้สร้างความไม่รับผิดชอบ
5."เหนื่อย"  พอพูดคำนี้ออกมา ร่างกายก็จะตอบสนองด้วยการอ่อนแอลงทันที
"จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว"

ด้วย 10 ลักษณะของคน "เก่งและฉลาดจริง"



 โดยมีปรัชญาที่ธรรมดามาก/คลาสสิคมาก คือ คนเก่งจริง และฉลาดจริง มักมีคุณสมบัติ 10 ประการ ดังนี้

1. เป็นคนพูดเก่ง แต่ไม่พูดมาก เพราะรู้ว่าเค้าจะฉลาดขึ้นได้ด้วยการฟัง
2. มีความรู้หลายด้านมากกว่าอาชีพที่ทำ และมักจะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
3. จัดสรรเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ มีสมดุลในชีวิตระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว และเต็มที่กับทุกเรื่องที่ทำ
4. ไม่ใช้ Social Media ตลอดเวลา แต่ใช้รับข้อมูลที่สนใจ และส่งต่อความคิดดีๆ ให้กับคนอื่นเสมอ
5. กลับมายิ้มได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมีสิ่งเลวร้ายเข้ามาในชีวิตก็ตาม
6. รู้ว่าตัวเองมีความสามารถ แต่ไม่เคยเสียเวลาภูมิใจกับความสามารถของตนเอง
7. ไม่ต้องเป็นผู้นำ แต่สามารถดึงความสามารถของคนในทีมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้เสมอ
8. ไม่อวดความสามารถที่แท้จริง ว่าเจ๋งแค่ไหน แต่จะพิสูจน์ได้เสมอเมื่อถึงเวลาต้องใช้มัน
9. อาจมีหรือไม่มีการศึกษาสูง หรือไม่จบจากสถาบันมีชื่อเสียง แต่มีผลงานการันตีความสามารถเสมอ
10. ไม่เคยทำให้คนอื่นรู้สึกโง่เมื่อเค้าทำผิดพลาด แต่ให้โอกาส คำแนะนำ และให้กำลังใจเสมอ
...ทำใจเป็นกลางน่ะครับ..อย่าเอาไปเปรียบเทียบ...แต่ทำให้ได้จะเป็นเก่ง คนฉลาดจริง..ครับ

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558

10ประการที่ญี่ปุ่นก้าวหน้าระดับโลก

1. ญี่ปุ่นสอนตั้งแต่ชั้น ประถม ๑ ถึง ประถม ๖ วิชาหนึ่ง ชื่อว่า “ทางสู่จริยธรรม” เพื่อเผชิญชีวิตในอนาคต

2.ไม่มีการสอบตก ตั้งแต่ ประถม ๑ ถึง มัธยมต้น เนื่องจาก จุดประสงค์ คือ การอบรม ปลูกฝังแนวคิด และ เสริมสร้างบุคลิกภาพ ไม่เพียงแต่ให้ความรู้และคำสั่ง

3. ถึงแม้เป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่พวกเขาไม่มีคนใช้ พ่อและแม่รับผิดชอบภายในบ้านและลูก ๆ. 

4. เด็ก ๆ ทำความสะอาด ที่โรงเรียนทุกวัน ๑๕ นาที พร้อม ๆกับคุณครู , ซึ่งทำให้เกิดความเรียบง่ายและมีนิสัยรักความสะอาด

5. เด็กญี่ปุ่น จะนำแปรงสีฟันที่ถูกฆ่าเชื้อแล้ว จะแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร จึงทำให้ติดนิสัยรักสุขภาพตั้งแต่เยาว์วัย

6. ผู้อำนวยการโรงเรียนจะกินอาหารของนักเรียนก่อน เป็นเวลา ครึ่งชั่วโมง เพื่อความแน่ใจและความปลอดภัยของนักเรียน พวกเขาตระหนักอยู่เสมอว่า เด็กๆ เป็นอนาคตของญี่ปุ่นที่พวกเขาต้องปกป้อง 

7. พนักงานทำความสะอาด พวกเขาเรียกกันว่า “นายช่างสุขภาพ” เงินเดือน ๕๐๐๐ ถึง ๘๐๐๐ ดอลล่าร์อเมริกา ตามระดับของการทดสอบและสัมภาษณ์

8. ห้ามใช้โทรศัพท์บนรถไฟ ภัตตาคาร สถานที่ปกปิด ที่ต้องการความเงียบ เป็นมาตรฐานที่ปฏิบัติใช้กันเคร่งครัดในบริการสาธารณะว่าห้ามใช้เสียง ...ที่ทุกคนต้องรู้จัก 'มารยาท'

9. ถ้าคุณไปร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ จะสังเกตว่าทุกคนเอาอาหารที่จำเป็นเท่านั้น จะไม่พบอาหารเหลือในจานเลย

10. โดยเฉลี่ยแล้ว ภายในเวลา ๑ ปี รถไฟจะช้ากว่ากำหนด ๗ วินาทีเท่านั้น _ ชาวญี่ปุ่นรู้ถึงคุณค่าของเวลา เคร่งครัด ตรงต่อเวลาวินาที และนาที

ใครรับราชการ ให้บันทึกเก็บไว้นะครับ มีประโยชน์มาก

ใครรับราชการ
ให้บันทึกเก็บไว้นะครับ
มีประโยชน์มาก
เกษียณแล้วได้อะไรบ้าง
อันนี้ละเอียดดีครับ

1)- ไม่เป็นสมาชิก กบข.
ก): กรณีรับบำเหน็จ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย x อายุราชการ(รวมอายุราชการทวีคูณ)
กรณีนี้จะได้รับเงินก้อนเดียว
สิทธิต่าง ๆ ระงับไป ยกเว้นการขอพระราชทานเพลิงศพ
ข): กรณีรับบำนาญ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย x อายุราชการ (รวมอายุราชการทวีคูณ เกิน 6 เดือนนับเป็น 1 ปี) หาร 50
กรณีนี้จะได้รับเงินทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต และยังมีสิทธิได้รับ
1. ค่ารักษาพยาบาลของตนเอง คู่สมรสและบิดามารดา บุตรที่ไร้ความสามารถ ยกเว้นบุตรปกติที่อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
2. ค่าเล่าเรียนบุตร เบิกได้ถึงอายุ 25 ปีบริบูรณ์
3. บำเหน็จดำรงชีพ = เงินบำนาญ x 15 เท่า
เมื่อเกษียณได้รับเลย 200,000.-฿
เมื่ออายุครบ 65 ปีขอรับได้อีก 400,000.-฿ รวม 2 ครั้งไม่เกิน 600,000.-฿ แต่ทั้งหมดนี้ไม่เกิน 15 เท่าของเงินบำนาญ
4. เงินช่วยพิเศษ (ถึงแก่กรรม) = เงินบำนาญ x 3 เท่า
มอบให้กับผู้ที่ผู้รับบำนาญแสดงเจตนาหรือทายาทตามกฎหมาย
5. เงินบำเหน็จตกทอด (ถึงแก่กรรม) = เงินบำนาญ x 30 เท่า – เงินบำเหน็จดำรงชีพที่เบิกไปแล้ว
มอบให้กับทายาทตามกฎหมายหรือผู้ที่ผู้รับบำนาญแสดงเจตนา (กรณีที่ไม่มีทายาท)
และถ้าไม่มีผู้รับให้สิทธิบำเหน็จตกทอดเป็นอันยุติลง

2)- เป็นสมาชิก กบข.
ก): กรณีรับบำเหน็จ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย (เศษเดือนเศษวันเป็นจุดทศนิยม x อายุราชการ (รวมอายุราชการทวีคูณ)
กรณีนี้จะได้รับเงินก้อนเดียว
สิทธิต่าง ๆ ระงับไป ยกเว้นการขอพระราชทานเพลิงศพ
ข): กรณีรับบำนาญ = เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย x อายุราชการ (รวมอายุราชการทวีคูณ เป็นจุดทศนิยม) หารด้วย 50
แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 70% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือน
กรณีนี้จะได้รับเงินทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต และยังมีสิทธิได้รับสิทธิต่าง ๆ เหมือนกับบำนาญปกติ

สมาชิก กบข.แบบ ก.,ข. ยังได้รับเงิน
1. เงินสะสม + ผลประโยชน์
2. เงินประเดิม + ผลประโยชน์
3. เงินชดเชย + ผลประโยชน์
4. เงินสมทบ + ผลประโยชน์
ส่วนผู้ที่ลาออกจาก กบข.จะได้เงินสะสมของตนเองคืน

3)- เงินต่าง ๆ ที่สมัครเป็นสมาชิก
ก): เงินฌาปนกิจสงเคราะห์
ข): เงินผลประโยชน์จากหุ้นสหกรณ์
ค): เงินประกันชีวิตและเงินช่วยเหลือจากสหกรณ์
กรณีผู้รับบำนาญตายผู้ที่ได้รับคือผู้ที่ผู้รับบำนาญแสดงเจตนาหรือทายาทตามกฎหมาย

หมายเหตุ
ทายาทตามกฎหมายได้แก่
1. บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ได้รับคนละ 1 ส่วน
2. สามีภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมาย ได้รับ 1 ส่วน
3. บิดามารดาหรือบิดาหรือมารดาที่มีชีวิตอยู่ ได้รับ 1 ส่วน

): ประกาศราชการทวีคูณ
– ช่วงที่ 1 วันที่ 19 ก.ย.49 – 26 ม.ค.50 = 4 เดือน 11 วัน
– ช่วงที่ 2 วันที่ 20 พ.ค.57 – 1 เม.ย.58 = 11 เดือน 7 วัน
รวม 2 ช่วง = 15 เดือน 18 วัน

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

9แนวคิดที่แตกต่าง


ผู้นำ


คอกาแฟยิ้มออก

คอกาแฟยิ้มออก

กาแฟดำล้วนๆ
ไม่ชวนดื่ม
แต่มีประโยชน์มากมาย

ประโยชน์ 11 ข้อ ของการ"ดื่มกาแฟ"ที่ไม่ใส่น้ำตาลและไม่ใส่คอฟฟี่เมทคือ..
ดื่มแต่กาแฟล้วนๆอย่างเดียว

1.ช่วยป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ.B.มีผู้วิจัยพิสูจน์แล้ว

2.ช่วยป้องกันโรคหอบโรคนี้คืออาการภูมิแพ้ชนิดหนึ่งโดยทั่วไปเมื่อมีประสาทสำรองไม่ถูกกระตุ้นจะไม่มีอาการหอบเกิดขึ้นง่ายๆ
แต่ถ้าหากประสาทสัมผัสสำรองถูกกระตุ้น จะเกิดอาการหอบทันที..คาเฟอีนในกาแฟจะระงับการตึงเครียดของประสาทสัมผัสสำรอง ลดการเกิดโรคหอบ

3.ช่วยลดการเกิดโรคตับจากสุราตามที่นักวิชาการสำรวจแล้วพบว่ากาแฟช่วยลดผลร้ายที่จะมีต่อตับได้อย่างดี

4.ช่วยป้องกันมะเร็งตับมะเร็งลำไส้และมะเร็งในช่องปาก จากผลการทดลองจริง พบว่ากาแฟมีประสิทธิ ภาพป้องกันโรคขั้นต้น โดยเฉพาะในคาเฟอีนมีกรดอะซิติก ที่ช่วย ป้องกันโรคต่างๆดังกล่าวได้

5.ช่วยขับไล่ความชราอ็อกซิเจนเป็นสารที่ร่างกายต้องการมากก็จริงแต่ถ้ามีออกซิเจนมากไปทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงและแก่เร็ว โดยเฉพาะกาแฟที่เข้มข้นจะทำให้ออกไซด์แตกตัวลดการเกิดมะเร็งได้กระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกายได้ดี

6.การดื่มกาแฟเป็นประจำช่วยลดอัตราคอเลสเตอรอลป้องกันโรคหัวใจในกาแฟมีนิโคตินแต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกับในบุหรี่.แต่เป็นวิตามิน B รวมชนิดหนึ่ง
ที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดจึงป้องกัน
โรคหัวใจและหลอดเลือดแข็งตัวได้

7.ช่วยละลายไขมันกาแฟที่ดื่มหลังอิ่มอาหารช่วยให้ไขมันแตกตัวและให้พลังงานทดแทนจึงลดความอ้วนได้ด้วย

8.กาแฟเพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวตามผลการวิจัยพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ
บ่อยๆ จะมีไขมันชนิด HDLเพิ่มขึ้นซึ่งไขมันชนิดนี้จะขับไล่คอเลสเตอรอลออกไปป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวได้

9.ช่วยแก้ปวดศีรษะ กาแฟมีส่วนผสม
ของคาเฟอีนที่ขยายหลอดเลือดระงับอาการปวดได้เช่นเดียวกับยาแก้ปวดและยังช่วยขับปัสสาวะ.ละลายไขมันในเส้นเลือดและช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เนื่องจากเมาสุราได้

10.ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมองและสมรรถภาพสมองมีผู้เชี่ยวชาญสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับ
เรื่องนี้ออกมาว่าความหอมของกาแฟช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นนั้นเป็นเพราะกลิ่นกาแฟทำให้เลือดไหลเวียนในสมองเพิ่มขึ้น

11.ดื่มกาแฟเล็กน้อยทำให้น้ำย่อยในกระเพาะหลั่งดีขึ้นไขมันแตกตัวหากได้ดื่มกาแฟเล็กน้อยหลังทานอาหารเสร็จคาเฟอีนในกาแฟจะมีประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรงน้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนจะเพิ่มขึ้นไขมันถูกเผาผลาญได้ดีมากขึ้น.

อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆนะคะ

ระบบแจ้งเตือน LINE Notify โดยเอา token notify ใส่ใน description google calendar แล้วสั่งแจ้งเตือนแยกรายกิจกรรม แยกบุคคลได้ตาม token

    ที่มา :  script.google.com function getTodaysEvents () {   // ดึง Calendar หลักของผู้ใช้   var calendar = CalendarApp . getCalendarBy...