วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558
วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558
วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558
วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2558
วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558
5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการชาร์จแบตฯ สมาร์ทโฟน
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการชาร์จแบตฯ สมาร์ทโฟน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่กังวัลว่าจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อม
เชื่อ ว่าหลายคนคงเคยได้ยินหรือรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน ที่บอกว่าการชาร์จแบบนั้นแบบนี้จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อม จนถึงขั้นทำให้เครื่องระเบิดได้กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมจึงหยิบเอาเรื่องน่ารู้ของการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ท โฟนจากเว็บไซต์ mashable มาแนะนำให้ทราบกันครับ
ใช้ตัวชาร์จแบตเตอรี่ยี่ห้ออื่นทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไว
ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริงสักเท่าไร เพราะคุณสามารถเลือกซื้อตัวชารจ์ที่มีราคาถูกกว่าของจริงมาใช้แทนได้ แต่ต้องเป็นแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจากแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเท่านั้น ซึ่งทางเว็บไซต์ Lifehacker ได้ ทำการทดลองเพื่อพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ชนิดใดปลอดภัยที่สุด โดยผลที่ได้ออกมาคือตัวชาร์จของแท้มีความปลอดภัยที่สุด รองลงมาคือตัวชาร์จแบรนด์อื่นที่ได้รับการรับรอง และสุดท้ายที่ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไรคือตัวชาร์จของปลอมซึ่งไม่ได้มาตรฐานนั่น เอง
ไม่ควรใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จแบตเตอรี่อยู่
ในปี 2013 มีข่าวว่าแอร์โฮสเตสชาวจีนเสียชีวิตเพราะโดนไฟฟ้าช็อตจากการใช้ไอโฟน 4 ขณะที่กำลังชาร์จไฟอยู่ จนทำให้ผู้ใช้ไอโฟนทั่วโลกเกิดความกังวลขึ้นมาทันที แต่จากนั้นไม่นานก็มีรายงานจากเว็บไซต์ Fortune ว่า อุปกรณ์ที่เธอใช้นั้นเป็นของปลอม ไม่ใช่ของแท้จากแอปเปิลแต่อย่างใด ซึ่งความจริงก็คือคุณสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนขณะชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างสบายใจ ตราบใดที่ใช้อุปกรณ์ของจริงหรือจากแบรนด์ที่ผ่านการรับรองแล้ว
ชาร์จไฟข้ามคืนทำให้แบตเตอรี่พัง
เชื่อว่าหลายคนคงมีความเชื่อว่าชาร์จแบตข้ามคืนทำให้แบตเตอรี่พัง จนอาจส่งผลให้สมาร์ทโฟนเกิดระเบิดได้ ซึ่งก็มีรายงานจากเว็บไซต์ Deemable ที่ขัดแย้งกับความเชื่อนี้ โดยทางเว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีความฉลาดอันน่าเหลือเชื่อ เพราะมันจะตัดไฟเองเมื่อแบตเตอรี่ถูกชาร์จจนเต็มแล้ว อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ Yahoo มีรายงานเสริมว่าผู้ใช้ไม่ควรชาร์จสมาร์ทโฟนข้ามคืนติดต่อกันทุกวัน และถ้าแบตเตอรี่ยังเหลือที่ 40-80 เปอร์เซ็นต์อยู่ ก็ยังไม่ต้องชาร์จก็ได้
อย่าปิดเครื่อง ถ้าไม่จำเป็น
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายรายอาจเคยกังวลว่าถ้าปิดเครื่องบ่อย ๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว แต่คุณหายห่วงได้เลย เมื่อเว็บไซต์ Cnet ทำการสอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญของแอปเปิล ซึ่งสรุปได้ว่าการปิดสมาร์ทโฟนโฟนสัปดาห์ละครั้ง โดยเฉพาะเวลาที่คุณนอนหลับ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้มากขึ้น ไม่เพียงแค่นั้นเว็บไซต์ Androidcentral ยังบอกอีกว่าการปิด-เปิดเครื่องของสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ จะช่วยให้เครื่องทำงานไหลลื่นขึ้น เพราะมันจะเคลียร์ไฟล์ขยะต่าง ๆ ที่ตกค้างภายในนั่นเอง
ถ้าแบตเตอรี่ไม่หมด ห้ามชาร์จเด็ดขาด
เตรียมโบกมือลาแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนของคุณได้เลย ถ้ายังปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนเครื่องดับแล้วค่อยชาร์จ โดยสิ่งที่ควรทำคือเสียบสายชาร์จทันทีที่แบตเตอรี่ใกล้หมด อย่าปล่อยให้เครื่องดับเด็ดขาด เพราะตามรายงานของเว็บไซต์ Gizmodo เผยว่าแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ที่อยู่ในสมาร์โฟนเป็นแบบลิเธียมไอออน ที่มีจำนวนรอบการใช้งานมาก แต่ก็จำกัดเช่นกัน หากปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ ก็จะทำให้จำนวนรอบของแบตเตอรี่ลดลงตามไปด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุให้แบตเตอรี่เสื่อมไว
เป็น อย่างไรบ้างกับข้อมูลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนที่เรานำมาฝากกัน เชื่อเหลือเกินว่าข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายรายไม่ มากก็น้อย เอาเป็นว่าลองเอาไปประยุกต์ใช้ได้เลยครับ ถ้าเห็นผลว่าดี จะแนะนำเพื่อน ๆ ต่อก็ไม่ว่ากัน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่กังวัลว่าจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อม
เชื่อ ว่าหลายคนคงเคยได้ยินหรือรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน ที่บอกว่าการชาร์จแบบนั้นแบบนี้จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อม จนถึงขั้นทำให้เครื่องระเบิดได้กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมจึงหยิบเอาเรื่องน่ารู้ของการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ท โฟนจากเว็บไซต์ mashable มาแนะนำให้ทราบกันครับ
ใช้ตัวชาร์จแบตเตอรี่ยี่ห้ออื่นทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไว
ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริงสักเท่าไร เพราะคุณสามารถเลือกซื้อตัวชารจ์ที่มีราคาถูกกว่าของจริงมาใช้แทนได้ แต่ต้องเป็นแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจากแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเท่านั้น ซึ่งทางเว็บไซต์ Lifehacker ได้ ทำการทดลองเพื่อพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ชนิดใดปลอดภัยที่สุด โดยผลที่ได้ออกมาคือตัวชาร์จของแท้มีความปลอดภัยที่สุด รองลงมาคือตัวชาร์จแบรนด์อื่นที่ได้รับการรับรอง และสุดท้ายที่ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไรคือตัวชาร์จของปลอมซึ่งไม่ได้มาตรฐานนั่น เอง
ไม่ควรใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จแบตเตอรี่อยู่
ในปี 2013 มีข่าวว่าแอร์โฮสเตสชาวจีนเสียชีวิตเพราะโดนไฟฟ้าช็อตจากการใช้ไอโฟน 4 ขณะที่กำลังชาร์จไฟอยู่ จนทำให้ผู้ใช้ไอโฟนทั่วโลกเกิดความกังวลขึ้นมาทันที แต่จากนั้นไม่นานก็มีรายงานจากเว็บไซต์ Fortune ว่า อุปกรณ์ที่เธอใช้นั้นเป็นของปลอม ไม่ใช่ของแท้จากแอปเปิลแต่อย่างใด ซึ่งความจริงก็คือคุณสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนขณะชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างสบายใจ ตราบใดที่ใช้อุปกรณ์ของจริงหรือจากแบรนด์ที่ผ่านการรับรองแล้ว
ชาร์จไฟข้ามคืนทำให้แบตเตอรี่พัง
เชื่อว่าหลายคนคงมีความเชื่อว่าชาร์จแบตข้ามคืนทำให้แบตเตอรี่พัง จนอาจส่งผลให้สมาร์ทโฟนเกิดระเบิดได้ ซึ่งก็มีรายงานจากเว็บไซต์ Deemable ที่ขัดแย้งกับความเชื่อนี้ โดยทางเว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีความฉลาดอันน่าเหลือเชื่อ เพราะมันจะตัดไฟเองเมื่อแบตเตอรี่ถูกชาร์จจนเต็มแล้ว อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ Yahoo มีรายงานเสริมว่าผู้ใช้ไม่ควรชาร์จสมาร์ทโฟนข้ามคืนติดต่อกันทุกวัน และถ้าแบตเตอรี่ยังเหลือที่ 40-80 เปอร์เซ็นต์อยู่ ก็ยังไม่ต้องชาร์จก็ได้
อย่าปิดเครื่อง ถ้าไม่จำเป็น
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายรายอาจเคยกังวลว่าถ้าปิดเครื่องบ่อย ๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว แต่คุณหายห่วงได้เลย เมื่อเว็บไซต์ Cnet ทำการสอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญของแอปเปิล ซึ่งสรุปได้ว่าการปิดสมาร์ทโฟนโฟนสัปดาห์ละครั้ง โดยเฉพาะเวลาที่คุณนอนหลับ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้มากขึ้น ไม่เพียงแค่นั้นเว็บไซต์ Androidcentral ยังบอกอีกว่าการปิด-เปิดเครื่องของสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ จะช่วยให้เครื่องทำงานไหลลื่นขึ้น เพราะมันจะเคลียร์ไฟล์ขยะต่าง ๆ ที่ตกค้างภายในนั่นเอง
ถ้าแบตเตอรี่ไม่หมด ห้ามชาร์จเด็ดขาด
เตรียมโบกมือลาแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนของคุณได้เลย ถ้ายังปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนเครื่องดับแล้วค่อยชาร์จ โดยสิ่งที่ควรทำคือเสียบสายชาร์จทันทีที่แบตเตอรี่ใกล้หมด อย่าปล่อยให้เครื่องดับเด็ดขาด เพราะตามรายงานของเว็บไซต์ Gizmodo เผยว่าแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ที่อยู่ในสมาร์โฟนเป็นแบบลิเธียมไอออน ที่มีจำนวนรอบการใช้งานมาก แต่ก็จำกัดเช่นกัน หากปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ ก็จะทำให้จำนวนรอบของแบตเตอรี่ลดลงตามไปด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุให้แบตเตอรี่เสื่อมไว
เป็น อย่างไรบ้างกับข้อมูลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนที่เรานำมาฝากกัน เชื่อเหลือเกินว่าข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายรายไม่ มากก็น้อย เอาเป็นว่าลองเอาไปประยุกต์ใช้ได้เลยครับ ถ้าเห็นผลว่าดี จะแนะนำเพื่อน ๆ ต่อก็ไม่ว่ากัน
แนะนำวิธีตรวจสอบข้อมูลเงินประกันสังคมของตัวเองผ่านเว็บไซต์
เขียนโดย : okeman555
ที่มา : http://pantip.com/topic/33057058
บางคนโดนหักเงินประกันสังคมไปทุกเดือน ก็ไม่รู้ว่าเงินนี้ไปถึงไหนยังไง วันนี้เลยขอแนะนำวิธีตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองครับ
1. เข้าเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม http://www.sso.go.th คลิกที่ปุ่ม Login ที่มุมขวามือด้านบนเพื่อเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
หมั่นตรวจสอบเงินของเราเพื่อรักษาสิทธินะครับ
ปล. มีผู้ประกันตนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิในเงินสงเคราะห์ชราภาพ ก็เลยไม่ได้ยื่นเรื่องขอรับเงิน ทำให้เสียสิทธิที่ควรได้เป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยนะครับ
ปล.2 ถ้าเกิดสิทธิที่จะได้รับเงินสงเคราะห์ชราภาพ (บำเหน็จ/บำนาญ) ให้ไปยื่นเรื่องที่สำนักงานประกันสังคมเขตใดก็ได้ที่สะดวก ภายใน 1 ปีนับตั้งแต่ที่เกิดสิทธิ มิฉะนั้นอาจเสียสิทธิรับเงินก้อนนี้ก็ได้ครับ โดยติดต่อขอรับแบบ สปส 2-01 พร้อมเตรียมสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาสมุดบัญชีธนาคารไปด้วย จะไปยื่นเอง หรือให้ผู้อื่นไปยื่นแทนก็ได้ครับ
ปล.3 เงินที่จะได้คืนตามตารางที่คำนวณในเว็บไซต์ จะได้คืนเป็นก้อนเดียวครั้งเดียว (บำเหน็จ) มีเงื่อนไขคือต้องส่งเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน แต่ถ้าส่ง 180 เดือนขึ้นไป จะได้รับเป็นรายเดือน (บำนาญ) ไปตลอดชีวิต รับเป็นเงินก้อนไม่ได้ (มีสูตรคำนวณจำนวนที่จะได้รับแต่ละเดือนในเว็บไซต์)
ปล.4 ตอนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบข้อมูลของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 (ไม่ใช่ลูกจ้าง) เลยยังไม่สามารถเช็คข้อมูลผ่านหน้าเว็บได้
ปล.5 กรณีที่มีปัญหาในการสมัครสมาชิกเว็บไซต์ หรือไม่สามารถทำการ Login ได้ แนะนำให้ติดต่อ โทร. 02-9562400 ในวันและเวลาราชการ 08.30-16.30 น. แต่ถ้ามีข้อสงสัยอื่น ๆ เกี่ยวกับประกันสังคม ติดต่อสายด่วน 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุด (มีคนรับสายตลอด)
ที่มา : http://pantip.com/topic/33057058
บางคนโดนหักเงินประกันสังคมไปทุกเดือน ก็ไม่รู้ว่าเงินนี้ไปถึงไหนยังไง วันนี้เลยขอแนะนำวิธีตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองครับ
1. เข้าเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม http://www.sso.go.th คลิกที่ปุ่ม Login ที่มุมขวามือด้านบนเพื่อเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
2. หากเป็นการใช้งานครั้งแรก ให้คลิกที่ "สมัครสมาชิก" แต่ถ้าเป็นสมาชิกแล้ว ข้ามไปข้อ 6
3. กรอกข้อมูลผู้ใช้ ซึ่งเราสามารถกำหนดได้เอง โดยดูคำแนะนำที่ระบุในเว็บไซต์
4. กรอกข้อมูลส่วนตัว
5. ระบบจะส่งข้อมูลยืนยันการเป็นสมาชิกไปที่อีเมล์ที่เราระบุ
เข้าไปดูที่อีเมล์นั้น ถ้าไม่พบในกล่องจดหมาย
อาจจะเข้าไปอยู่ที่กล่องอีเมล์ขยะ
ซึ่งระยะเวลาที่จะได้ลิงค์ยืนยันการสมัครเข้าใช้งาน ไม่เกิน 24 ชม.
(บางคนอาจจะ 5-10 นาทีก็ได้แล้ว แต่ไปอยู่ในกล่องเมล์ขยะ)
6.
คลิกที่ลิงค์ในอีเมล์เพื่อเข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลผู้ใช้และรหัสผ่านที่เรา
กำหนด หรือคลิกที่ปุ่ม Login ในหน้าแรกเพื่อกรอกข้อมูลผู้ใช้และรหัสผ่าน
7. คลิกที่ปุ่ม Login อีกครั้งเพื่อดูว่าเราเข้าสู่ระบบรึยัง ถ้าเข้าได้แล้ว จะปรากฏแถบยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบ
8. จากนั้นมาที่เมนู "ตรวจสอบข้อมูล" แล้วเลือก "สำหรับผู้ประกันตน" เพื่อดูข้อมูลต่างๆของเรา
10. ลองเลือก "ข้อมูลการส่งเงินสมทบ" ก็จะแสดงข้อมูลปีล่าสุด
จะปรากฏจำนวนเงินที่เรานำส่งแต่ละเดือน ซึ่งถูกแยกเป็น 3 ส่วนคือ เจ็บป่วย
ชราภาพ และว่างงาน ซึ่งสามารถดูย้อนหลังไปปีก่อนๆได้ โดยเปลี่ยน พ.ศ.ด้านบน
11. ต้องการดูข้อมูลอื่นก็คลิกที่ "สำหรับผู้ประกันตน" ที่ด้านบน
12. ลองดูว่าถ้าเราอายุครบ 55 ปีตามเกณฑ์ เราจะได้เงินเท่าไหร่ คลิกที่ "การคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพ"
จะแสดงข้อมูลส่วนแรก กรณีที่จ่ายเกิน 12 เดือน ก็จะมีทั้งส่วนที่เราสมทบ
นายจ้างสมทบ และรัฐบาลสมทบ (เราสมทบ 35,093 บาท
นายจ้างและรัฐสมทบมาอีกเท่าตัว)
นอกจากนี้ ก็จะมีตารางคำนวณผลประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มเติมให้ด้วย
จะเห็นว่า เบ็ดเสร็จแล้วเราจ่ายประกันสังคมส่วนของกรณีชราภาพไปทั้งสิ้น 35,093 บาท แต่เราจะได้กลับคืนมาตั้ง 84,218 บาท
หมั่นตรวจสอบเงินของเราเพื่อรักษาสิทธินะครับ
ปล. มีผู้ประกันตนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิในเงินสงเคราะห์ชราภาพ ก็เลยไม่ได้ยื่นเรื่องขอรับเงิน ทำให้เสียสิทธิที่ควรได้เป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยนะครับ
ปล.2 ถ้าเกิดสิทธิที่จะได้รับเงินสงเคราะห์ชราภาพ (บำเหน็จ/บำนาญ) ให้ไปยื่นเรื่องที่สำนักงานประกันสังคมเขตใดก็ได้ที่สะดวก ภายใน 1 ปีนับตั้งแต่ที่เกิดสิทธิ มิฉะนั้นอาจเสียสิทธิรับเงินก้อนนี้ก็ได้ครับ โดยติดต่อขอรับแบบ สปส 2-01 พร้อมเตรียมสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาสมุดบัญชีธนาคารไปด้วย จะไปยื่นเอง หรือให้ผู้อื่นไปยื่นแทนก็ได้ครับ
ปล.3 เงินที่จะได้คืนตามตารางที่คำนวณในเว็บไซต์ จะได้คืนเป็นก้อนเดียวครั้งเดียว (บำเหน็จ) มีเงื่อนไขคือต้องส่งเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน แต่ถ้าส่ง 180 เดือนขึ้นไป จะได้รับเป็นรายเดือน (บำนาญ) ไปตลอดชีวิต รับเป็นเงินก้อนไม่ได้ (มีสูตรคำนวณจำนวนที่จะได้รับแต่ละเดือนในเว็บไซต์)
ปล.4 ตอนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบข้อมูลของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 (ไม่ใช่ลูกจ้าง) เลยยังไม่สามารถเช็คข้อมูลผ่านหน้าเว็บได้
ปล.5 กรณีที่มีปัญหาในการสมัครสมาชิกเว็บไซต์ หรือไม่สามารถทำการ Login ได้ แนะนำให้ติดต่อ โทร. 02-9562400 ในวันและเวลาราชการ 08.30-16.30 น. แต่ถ้ามีข้อสงสัยอื่น ๆ เกี่ยวกับประกันสังคม ติดต่อสายด่วน 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุด (มีคนรับสายตลอด)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ระบบแจ้งเตือน LINE Notify โดยเอา token notify ใส่ใน description google calendar แล้วสั่งแจ้งเตือนแยกรายกิจกรรม แยกบุคคลได้ตาม token
ที่มา : script.google.com function getTodaysEvents () { // ดึง Calendar หลักของผู้ใช้ var calendar = CalendarApp . getCalendarBy...

-
หลายท่านที่เป็น admin คงเคยเจออาการการ login ซ้อนกันมานะคัรบที่จะมีข้อความแจ้งเตือนว่า simultaneous session limit reached for user กันมาบ้าง...
-
เปิดตัว Oppo N1 แอนดรอยด์โฟนพร้อมกล้องหมุนได้, จอ Full HD 5.9 นิ้ว, แบตฯ 3610mAh ฉีกมุมเล็กๆ อีกแล้วสำหรับ Oppo N1 เลือกถ่ายได้ทั้งแบบด้านห...